สมุนไพรหญ้าคามีประโยชน์อย่างไร
มาจากแหลมมาเลเซีย แล้วก็ริมตลิ่งเมดิเตอร์เรเนียน ถูกใช้ประโยชน์สำหรับในการหมอแผนโบราณในประเทศแถบทวีปเอเชีย เช่น จีน ประเทศอินเดีย ศรีลังกา ซาอุดิอาราเบีย เวียดนาม แล้วก็ไทย ต้นหญ้าค้างเป็นวัชพืชที่พบมากในที่โล่งแจ้ง รวมทั้งมีความชุ่มชื้นสูงทั่วทั้งประเทศ แก่ยืนนับเป็นเวลาหลายปีเพาะพันธุ์โดยใช้ส่วนของเหง้า รวมทั้งเม็ดแพร่ระบาดรอบๆเขตร้อนทั้งโลก
jumbo jili
ลักษณะทั่วไป
ต้นหญ้าติดอยู่ ( Imperata Cylindrica )หมายถึงวัชพืชที่ทนต่อสภาพภูมิอากาศร้อน โดยรูปแบบของต้นหญ้าติดอยู่จะแตกกอแน่นมีลำต้นเมื่อโตสุดกำลังสูงโดยประมาณ 50 – 150 ซม. ใบแบนเรียวยาวราวๆ 20 – 50 ซม.. กว้าง 5 – 9 มม. จะมีปลอกห่อแหลมรวมทั้งแข็งที่ยอด ยาวราว 1 มม. แตกหน่อแทงขึ้นมาจากดิน ดอกออกเป็นช่อทรงกระบอก ยาว 5 – 20 ซม. เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 – 3 ซม. มีดอกย่อยอยู่ชิดกันแน่น เมื่อแก่จะเป็นขนฟูสีขาว อับเรณู 2 อัน สีเหลืองหรือสีส้ม ยอดเกสรเพศเมียสีชมพูหรือสีม่วง เม็ดจะหลุดตกลอยละล่องไปตามลม ขยายพันธุ์ไปได้ไกลๆและก็ในหนึ่งต้นสามารถผลิตเม็ดได้มากถึง 3,000 เม็ด
คุณประโยชน์ รวมทั้งคุณประโยชน์
การใช้ผลดีหมายถึงใช้มุงหลังคาบ้าน หลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ อายุการใช้งาน 3 – 5 ปี เจอได้ตามบ้านนอกของเมืองไทย แล้วก็มีงานศึกษาค้นคว้าวิจัยพบว่า ที่รากของต้นหญ้าติดอยู่มีสารสำคัญอยู่ 5 ประเภทหมายถึงฟินอลิก ( phenolic compounds ) วัวรความสงบ ( chrmones ) ตรีเตอร์ปินอยด์ ( triterpenoid ) เซสควิทเตอร์ปินอยด์ ( sesquiterpenoids ) รวมทั้ง โพลีแซคค้างไรด์ ซึ่งมีคุณประโยชน์ทางตำรับยาสมุนไพรดังต่อไปนี้
สล็อต
คุณประโยชน์ของต้นหญ้าติดอยู่
รากต้นหญ้าติดอยู่ช่วยคุ้มครองเซลล์สมองถูกทำลายจากสารเคมีที่เป็นพิษ
รากต้นหญ้าค้างช่วยสำหรับในการยั้งการยึดตัวกันของเกล็ดเลือด
ช่วยแก้อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
ใช้รากรวมทั้งเหง้าเป็นยาขับฉี่
ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานภายในร่างกาย
ช่วยลดระดับความดันเลือดสูง
ช่วยขยายเส้นโลหิต
ช่วยต้านทานการอักเสบ
ช่วยรักษาเยี่ยวเป็นหนอง
ช่วยแก้อาการตาเหลือง
ช่วยเจริญอาหาร
ช่วยขับตกขาว
ช่วยแก้เป็นหัด
แก้โรคดีซ่าน
ช่วยทำนุบำรุงไต
แก้ร้อนใน
แก้ไอ
สล็อตออนไลน์
ตำรับยา
1) แก้ไตอักเสบ ใช้รากแห้ง 30 กรัม ดอกเจ๊กกี่อึ้ง ( Solidago virga-aureus var. leiocarpa ( Benth ) A Gray ) 30 กรัม เปลือกลูกน้ำเต้า 15 กรัม เหล้าขาว 3 กรัม ต้มน้ำแบ่งรับประทาน 2 ครั้ง วันละชุด ( ห้ามผสมเกลือกิน ) หรือใช้รากสด 60 – 120 กรัม ต้มน้ำแบ่งรับประทาน 2-3 ครั้ง ให้หมดใน 24 ชั่วโมง
2) แก้เยี่ยวเป็นหนอง ใช้รากแห้ง 15 กรัม ใส่น้ำ 250 มล. ต้มให้เหลือ 50 มล. รินรับประทานตอนอุ่นหรือเย็น
3) แก้บากบั่นทำงานมาก บอบช้ำใน ใช้รากสดและก็ขิงสดขนาดเท่าๆกัน ( 60 กรัม ) ใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำ 2 ถ้วย ต้มให้เหลือ 1 ถ้วย รับประทานวันละครั้ง
4) แก้คลื่นไส้เป็นเลือด ใช้รากแห้ง 30 กรัม ต้มน้ำดื่มหรือผสมรากบัว 15 กรัม ต้มน้ำดื่ม
5) แก้เป็นหัด อยากดื่มน้ำ ใช้รากแห้ง 30 กรัม ต้มเอาน้ำเป็นประจำ
6) CDH โรคตับเหลือง ตัวเหลืองจากพิษเหล้า ใช้รากสด 1 กำมือ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆต้มกับเนื้อหมู 500 กรัม
7) ฉี่ขุ่นราวกับนม ใช้รากสด 250 กรัม ใส่น้ำ 2,000 มล. ต้มให้เหลือ 1,200 มล. ใส่น้ำตาลพอควรแบ่งรับประทาน 3 ครั้ง ให้หมดใน 24 ชั่วโมง หรือรับประทานแทนชาติดต่อกัน 5 – 15 วัน เป็น 1 รอบของการดูแลรักษา
8) แก้หอบ ใช้รากสด 1 กำมือ เปลือกต้นหม่อน ( Morus alba L. ) อย่างละเท่าๆกัน ใส่น้ำ 2 ถ้วยชาม ต้มให้เหลือ 1 ถ้วยชาม รับประทานแม้กระนั้นน้ำ
jumboslot
9) แก้ฉี่เป็นเลือด ใช้ราก 1 กำมือ ใส่น้ำ 1 ถ้วยใหญ่ ต้มให้เหลือ 1 ถ้วยชา ( 15 มล. ) รินรับประทานตอนอุ่นๆหรือใช้รากแห้ง เม็ดผักกาดน้ำ ( Plantago asia-tica L. ) อย่างละ 30 กรัม น้ำตาล 15 กรัม ต้มน้ำดื่ม
10) แก้เยี่ยวขัด ตัวบวมน้ำ ใช้รากสด 500 กรัม ลอกเปลือกที่อยู่ระหว่างข้ออก หั่นฝอยใส่น้ำ 4 ถ้วยใหญ่ ต้มให้เดือด 10 นาที เปิดมอง ถ้าเกิดรากยังไม่จมน้ำ ก็ให้ต้มถัดไปกระทั่งรากจมน้ำหมด เอากากออกรินตอนอุ่นๆโดยประมาณทีละครึ่งถ้วย ช่วงกลางวัน 5-6 ครั้ง ค่ำคืนอีก 2-3 ครั้ง ต่อเนื่องกันจนถึงครบ 12 ชั่วโมง เยี่ยวจะถูกขับออกมากขึ้น
11) แก้พิษจากต้นลำโพง ใช้รากสด 30 กรัม ต้นอ้อย 500 กรัม ตำคั้นเอาน้ำมาผสมกับน้ำมะพร้าว 1 ลูก ต้มรับประทาน
12) แก้เลือดกำเดาออกง่าย หรือออกไม่ค่อยหยุด ใช้ช่อดอกแห้ง 15 กรัม จมูกหมู 1 อัน ต้มให้เดือดราวๆ 1 ชั่วโมง รับประทานหลังรับประทานอาหารหลายที บางทีอาจหายสนิทได้ หรือใช้ขน ( ดอกแก่ ) 15 กรัม ต้มน้ำดื่มก็ได้หรือใช้น้ำคั้นจากรากสดรับประทาน 1 ถ้วยชา ( 15 มก. ) หรือใช้รากแห้งบดเป็นผุยผง 2.6 กรัม ผสมน้ำแช่ข้าวรับประทานหรือใช้รากสด 30 กรัม ต้มน้ำดื่มเวลาที่เลือดกำเดาออก ใช้ช่อดอกหรือขนตำอุดรูจมูก ช่วยห้ามเลือดกำเดาอีกด้วย
slot
บ้านเกิดเมืองนอนต้นหญ้าติดอยู่
ต้นหญ้าค้างเป็นพืชที่มีบ้านเกิดเมืองนอนเริ่มแรกรอบๆแนวชายฝังสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน แล้วได้แพร่พันธ์ไปยังเขตร้อนต่างๆทั้งโลก ในตอนนี้พบว่าต้นหญ้าติดอยู่ได้แพร่ขยายจำพวกไปทั่วทุกทวีปที่มีภาวการณ์อากาศแบบร้อนเปียกชื้น แล้วก็ยังถูกจัดให้เป็นวัชพืชที่ก่อปัญหาให้กับพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกอย่างยิ่ง สำหรับในประเทศไทย สามารถเจอได้ทั่วทุกภาคของประเทศโดยยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่รกร้าง ตามเทือกเขาหินปูนแล้วก็ตามป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง รวมทั้งตามข้างทางปกติ
ลักษณะทั่วไปต้นหญ้าค้าง
ต้นหญ้าค้างจัดเป็นพวกพืชประเภทต้นหญ้าที่เป็นไม้ล้มลุกที่มีใบสั้นคนเดียว มีเหง้าใต้ดินเป็นเส้นกลม สีขาวทอดยาว มีข้อเด่นชัด ผิวเรียบ โดยจะแตกกิ่งก้านสาขารวมทั้งแตกออกขึ้นเป็นกอใหม่และก็มีความสูงได้ราวๆ 50-100 ซม. ใบออกเป็นคนเดียวแทงออกมาจากเหง้าใต้ดินรูปแถบยาว มีลักษณะแบนเรียวยาว ปลายแหลม โคนสอบเรียว กว้าง 1 – 2 เซนติเมตร ยาว 0.5-1 มัธยม ขอบของใบคม ผิวใบมีขนสั้นอยู่เยอะมากๆ ดอกออกเป็นช่อแทงออกมาจากเหง้าใต้ดิน เป็นทรงกระบอก ยาว 10-20 เซลเซียสมัธยม มีดอกย่อยเหมือนขนเวียนเกาะ อยู่เสมอปลายช่อ เมื่อแก่จะเป็นขนฟูสีขาว ผล ได้ผลสำเร็จแห้งสีดำรูปกลมรี ส่วนเม็ดเป็นรูปกลมเล็กๆมีสีเหลือง โดยใน 1 ต้น บางทีอาจสร้างเม็ดสูงถึง 2000 เม็ดอย่างยิ่งจริงๆ