สรรพคุณของผักแพว

ผักแพว ( Vietnamese Coriander ) เป็น ไม้ล้มลุกที่พบได้บ่อยทุกภาคของเมืองไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์ Polygonum odoratum Lour. อยู่ในสกุลตระกลู Polygonaceae เป็นทั้งยังผักพื้นเมืองแล้วก็สมุนไพร ยอดอ่อน หรือใบอ่อนของผักแพว มีกลิ่นหอมหวน รสเฉพาะบุคคล มีรสเผ็ดร้อน ราษฎรทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นิยมนำยอดอ่อน ใบอ่อนมารับประทาน เป็นผักสดจิ้มกับน้ำพริก ผักแกล้มของกินรสจัด อาทิเช่น ลาบ ก้อย หรือใส่เป็นองค์ประกอบของของกินอื่นๆใช้ขจัดกลิ่นคาวของของกินได้อย่างดีเยี่ยม ดังเช่น ต้มปลา แกงป่า ( ใส่ผักแพว ) ผักแพวเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติเจอได้ ทั่วๆไปรอบๆห้วย หนอง ลำคลอง สระ หรือพื้นที่เปียกแฉะ มีชื่อเรียกแต่ละเขตแดน เป็นต้นว่า ภาคกึ่งกลาง ( ผักแพว พริกบ้า หอมจันทร์ ) ภาคเหนือ ( ผักไผ่ ) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( ผักแพว จันทร์โฉม พริกม้า ) ภาคใต้ ( จันทร์แดง )

jumbo jili
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
การขยายพันธุ์ สามารถทำได้ด้วยกระบวนการหว่านเม็ด ปักชำต้น แล้วก็แยกเหง้า แนวทางยอดนิยมจำนวนมากเป็นแนวทางปักชำ แล้วก็แยกเหง้า เป็นพืชที่เจริญก้าวหน้าได้ดิบได้ดีในดินที่มีความชุ่มชื้นสูง
ราก เป็นระบบรากฝอยจำนวนหลายชิ้นที่แตกมาจากเหง้าใต้ดิน จากข้อเหนือดิน แล้วก็ข้อที่สัมผัสกับน้ำหรือดินได้
ลำต้น รูปแบบของลำต้นมีทรงกลม ตั้งชัน เป็นข้อบ้อง มีขนาดเล็ก ความสูงของลำต้นมีราว 20 – 30 ซม. เปลือกลำต้นมีสีเขียวปนม่วง เหง้าใต้ดินสามารถแตกออกเป็นหลายต้น แต่ว่าไม่แตกกิ่งก้านสาขา
ใบ ลักษณะใบเรียวยาวเหมือนรูปไข่ โคนใบแคบ ปลายใบแหลม ศูนย์กลางใบกว้าง มีความยาวราวๆ 7 – 10 ซม. แตกเป็นใบโดดเดี่ยวออกมาจากรอบๆข้อของลำต้น มีหูใบอยู่ทั้งสองข้างของก้านใบ ใบมีสีเขียวสดหรือเขียวเข้มเป็นเงาบางส่วน ผิวใบและก็ขอบของใบเรียบ สามารถแลเห็นร่องเส้นกึ่งกลางใบได้อย่างแจ่มแจ้ง
ดอก ผักแพวมีดอกสีม่วงแดงขนาดเล็กเมื่อยังเป็นดอกตูมอยู่ แต่ว่าเมื่อบานก็จะมีสีขาวอมม่วงมองงดงาม แล้วก็แปลงเป็นสีขาวเมื่อบานสุดกำลัง ผักแพวจะมีดอกเป็นช่อรอบๆปลายกิ่ง
เม็ด ผักแพวมีเม็ดขนาดเล็ก แก่เร็ว ตกง่าย และไม่ค่อยติดผล
ส่วนที่ใช้ : ใบ ดอก ราก
คุณประโยชน์ : มีฤทธิ์ต้านหรือปกป้องโรคได้หลายหมวด ได้แก่ มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการคุ้มครองปกป้องการอักเสบ คุ้มครองปกป้องแบคทีเรียแล้วก็เชื้อไวรัสคุ้มครองอาการแพ้คุ้มครองปกป้องเส้นเลือด คุ้มครองป้องกันโรคมะเร็ง ชะลอความแก่ ปกป้องโรคที่มาพร้อมด้วยความเสื่อมโทรมต่างๆและโรคทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นจากความเสื่อมถอยต่างๆ
คุณประโยชน์ทางยาโบราณ
ราก : ช่วยทำนุบำรุงประสาท ช่วยรักษาโรคหอบหืด ช่วยแก้อาการไอ ช่วยรักษาโรคกระเพาะ ช่วยแก้ลักษณะของการปวดปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยรักษาลักษณะของการปวดข้อ ปวดกระดูก
ใบ : ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยชะลอวัย คุ้มครองป้องกันและก็ต้านโรคมะเร็ง ช่วยคุ้มครองปกป้องโรคหัวใจ ช่วยเจริญอาหาร ช่วยให้เลือดลมภายในร่างกายเดินสบาย รักษาโรคหวัด ช่วยสำหรับในการถ่าย คุ้มครองปกป้องรวมทั้งแก้ท้องผูก และก็ช่วยคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แก้ลม ขับลมในกระเพาะ แก้อาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ท้องร่วง อุจจาระทุพพลภาพ แก้ลักษณะการเจ็บท้อง รักษาโรคตัวจี๊ด รักษาริดสีดวงทวาร รักษาโรคโรคตับแข็ง ลดอาการอักเสบ แก้ตุ่มคัน ผื่นผื่นคันจากเชื้อรา เป็นขี้กลากโรคเกลื้อน บำรุงเลือดลมของสตรี
ดอก : ช่วยขับเหงื่อ รักษาโรคปอด
ค่าทางโภชนาการผักแพว ( 100 กรัม )

สล็อต
พลังงาน 54 กิโลแคลอรี่
น้ำ 89.4 กรัม
ใยอาหาร 1.9 กรัม
โปรตีน 1.6 กรัม
ไขมัน 0.8 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 7 กรัม
แคลเซียม 573 มก.
เหล็ก 2.9 มก.
วิตามินเอ 8,112 หน่วยสากล
วิตามินบี1/ 0.05 มก.
วิตามินบี2/ 0.59 มก.
วิตามินบี3/ 1.7 มก.
วิตามินซี 77 มก.
ธาตุฟอสฟอรัส 272 มก.
สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง
เนื่องด้วยผักแพวมีรสเผ็ดร้อน ถ้าเกิดกินในจำนวนมากอาจส่งผลให้กำเนิดอาการแสบร้อนข้างในโพรงปาก คอ แล้วก็ระคายกระเพาะได้
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากผักแพว
รสเผ็ดของผักแพวช่วยเพิ่มการเผาไขมันในเลือด เหมาะสมเป็นผักสมุนไพรลดหุ่นได้โดยไม่ขาดสารอาหาร เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยเส้นใยรวมทั้งวิตามิน แต่ว่าจำต้องกินในจำนวนที่มากพอเพียงหรือวันละไม่น้อยกว่า 3 ขีด
ผักแพวมีวิตามินเอสูง ก็เลยช่วยทำนุบำรุงและก็รักษาสายตาได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีวิตามินเอสูงถึง 8,112 หน่วยสากล ในขณะอีกข้อมูลกล่าวว่ามีสูงถึง 13,750 มก.
ผักแพวเป็นผักที่ติดอันดับ 8 ของผักที่มีวิตามินซีสูงสุด โดยมีวิตามินซี 115 มก. ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
ผักแพวมีแคลเซียมมากถึง 390 มก. ต่อ 100 กรัม ก็เลยช่วยทำนุบำรุงกระดูกรวมทั้งฟันให้แข็งแรงได้อย่างดีเยี่ยม
ผักแพวมีธาตุเหล็กสูงสุดติด 1 ใน 5 ชั้นของผักที่มีธาตุเหล็กสูง
ยอดอ่อนแล้วก็ใบอ่อนใช้ทำอาหาร ใช้กินเป็นผักสด หรือใช้แกล้มกับของกินที่มีรสจัด ใช้เป็นของเคียงของของกินอีสาน ของกินเหนือ ของกินเวียดนาม หรือเอามาหั่นเป็นฝอย ใช้คลุกเป็นเครื่องปรุงสดทำกับข้าวจำพวกลาบ ทาง ตำซั่ว ก้อยกุ้งสด ข้าวยำ แกงส้ม ฯลฯ
ใบผักแพวประยุกต์ใช้แกงชนิดปลา เพื่อช่วยขจัดกลิ่นของเนื้อสัตว์หรือเหม็นคาวปลาได้
ค่าทางโภชนาการของผักแพว ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 54 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 7.7 กรัม
ใยอาหาร 1.9 กรัมดอกผักแพว
ไขมัน 0.5 กรัม
โปรตีน 4.7 กรัม
น้ำ 83.4%
วิตามินเอ 8,112 หน่วยสากล
วิตามินบี 1 0.05 มก.
วิตามินบี 2 0.59 มก.
วิตามินบี 3 1.7 มก.
วิตามินซี 77 มก.
ธาตุแคลเซียม 79 มก.
ธาตุเหล็ก 2.9 มก.
ธาตุฟอสฟอรัส 272 มก.
ข้อมูลที่ได้รับมาจาก : กองโภชนาการ กรมอนามัย (ตารางแสดงค่าทางโภชนาการของของกินไทย)

สล็อตออนไลน์
Tip : วิธีการสำหรับเลือกซื้อผักแพว ควรจะเลือกซื้อผักแผวสด หรือมองที่ความสดใหม่ของใบเป็นหลัก ไม่เหี่ยวเฉารวมทั้งเหลือง แม้กระนั้นหากมีรอยกัดเล็มของหนอนรวมทั้งแมลงบ้างก็ช่างเถิด ส่วนการรักษาผักแพวก็ดังผักธรรมดา เป็นเก็บใส่เข้าไปภายในถุงพลาสติกแล้วปิดให้สนิท หรือจะเก็บเอาไว้ในกล่องพลาสติกสำหรับเก็บผักก็ได้ แล้วก็ค่อยนำไปแช่ตู้แช่เย็นในช่องผัก
คุณประโยชน์ของผักแพว
ผักแพวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายอย่างที่ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกาย แล้วก็ช่วยสำหรับเพื่อการชะลอวัย (ใบ)
ช่วยคุ้มครองป้องกันแล้วก็ต้านทานโรคมะเร็ง (ใบ)
ช่วยคุ้มครองปกป้องโรคหัวใจ (ใบ)
ใบใช้กินช่วยทำให้ปรับเจริญอาหาร (ใบ)
ช่วยบำรุงรักษาประสาท (ราก)
รสเผ็ดของผักแพวช่วยปรับเลือดลมภายในร่างกายเดินสบายมากขึ้นเรื่อยๆ (ใบ)
ช่วยรักษาโรคหวัด (ใบ)
ช่วยขับเหงื่อ (ดอก)
ช่วยรักษาโรคปอด (ดอก)
ช่วยรักษาอาการหอบหืด (ราก)
ช่วยแก้อาการไอ (ราก)
ช่วยสำหรับในการถ่าย คุ้มครองปกป้องรวมทั้งแก้ท้องผูก แล้วก็ช่วยคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยเหตุว่าเป็นผักที่มีเส้นใยมากถึง 9.7 กรัม ซึ่งจัดอยู่ในผักที่มีใยอาหารเยอะที่สุด 10 ชั้นของผักพื้นเมืองไทย (ใบ)
ผักแพวมีรสเผ็ดร้อน ก็เลยช่วยแก้ลม ขับลมในกระเพาะ แก้ท้องขึ้น ท้องอืดท้องเฟ้อ (ใบ, ยอดผักแพว) ใช้เป็นยาขับลมจับเบื้องบน ช่วยทำให้เรอระบายลมออกมาเวลาท้องขึ้นท้องเฟ้อ ท้องอืด (ใบ, ดอก, ต้นราก)
รากผักแพวช่วยรักษาโรคกระเพาะ (ราก) แก้กระเพาะทุพพลภาพหรือกระเพาะอักเสบ (ใบ, ดอก, ต้นราก)
ช่วยแก้ท้องเดิน อุจจาระทุพพลภาพ (ใบ, ดอก, ต้นราก)
ช่วยแก้ลักษณะของการเจ็บท้อง (ใบ, ดอก, ต้นราก)
ช่วยแก้อาการท้องรุ้งกินน้ำท้องมาน (ใบ, ดอก, ต้นราก)

jumboslot
ใบผักแพวช่วยรักษาโรคพยาธิตัวจี๊ด แต่ว่าจะต้องกินต่อเนื่องกัน 5-8 วัน
ลำต้นผักแพวใช้เป็นยาขับเยี่ยว (ต้น)
ราก ต้น ใบ และก็ดอก เอามาปรุงเป็นยาได้ ใช้รักษาริดสีดวงทวาร (ใบ, ดอก, ต้น, ราก)
ช่วยรักษาโรคโรคตับแข็ง (ใบ)
ช่วยลดอาการอักเสบ (ใบ)
ใบผักแพวใช้แก้ตุ่มคัน ผื่นผื่นคันจากเชื้อรา เป็นขี้กลากโรคเกลื้อน6 ด้วยการกางใบหรืออีกทั้งต้นเอามาคั้นหรือตำผสมกับเหล้าขาว แล้วก็ใช้เป็นยาใช้ภายนอก (ใบ, ทั้งยังต้น)
ช่วยแก้ลักษณะของการปวดเมื่อยล้าตามร่างกาย (ราก)
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดข้อ ปวดกระดูก (ราก)
ช่วยแก้เส้นประสาททุพพลภาพ แก้เหน็บชะตามปลายนิ้วมือ ปลายตีน และก็อาการมือสั่น (ใบ, ดอก, ต้นราก)
ใช้ปรุงเป็นยาบำรุงเลือดลมของสตรี (ใบ, ดอก, ต้นราก)
ข้อควรจะทราบ ! : ผักแพวสำคัญๆแล้วจะมีอยู่สองประเภทที่แตกต่างเพียงแค่สีต้นเป็นผักแพวแดงและก็ผักแพวขาว เป็นสมุนไพรแฝดที่เอามาประกอบเป็นจุลพิกัดหรือใช้คู่กันเป็นยาสมุนไพรจะมีฤทธิ์ยาแรงขึ้น แล้วก็มีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาเยอะขึ้นด้วย
คุณประโยช์จากผักแพว
รสเผ็ดของผักแพวช่วยเพิ่มการเผาไขมันในเลือด เหมาะสมเป็นผักสมุนไพรลดหุ่นได้โดยไม่ขาดสารอาหาร เพราะว่าอุดมไปด้วยเส้นใยรวมทั้งวิตามิน แม้กระนั้นจำต้องกินในจำนวนที่มากพอเพียงหรือวันละไม่น้อยกว่า 3 ขีด

slot
ผักแพวมีวิตามินเอสูง ก็เลยช่วยบำรุงรักษารวมทั้งรักษาสายตาได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีวิตามินเอสูงถึง 8,112 หน่วยสากลในช่วงเวลาที่อีกข้อมูลบอกว่ามีสูงถึง 13,750 มก.
ผักแพวเป็นผักที่ติดอันดับ 8 ของผักที่มีวิตามินซีสูงสุด โดยมีวิตามินซี 115 มก. ต่อน้ำหนัก 100 กรัม
ผักแพวมีแคลเซียมมากถึง 390 มก. ต่อ 100 กรัม ก็เลยช่วยทำนุบำรุงกระดูกและก็ฟันให้แข็งแรงได้อย่างดีเยี่ยม
ผักแพวมีธาตุเหล็กสูงสุดติด 1 ใน 5 ชั้นของผักที่มีธาตุเหล็กสูง
ยอดอ่อนรวมทั้งใบอ่อนใช้ปรุงอาหาร ใช้กินเป็นผักสด หรือใช้แกล้มกับของกินที่มีรสจัด ใช้เป็นเครื่องแนมของของกินอีสาน ของกินเหนือ ของกินเวียดนาม หรือเอามาหั่นเป็นฝอย ใช้คลุกเป็นเครื่องปรุงสดทำครัวจำพวกลาบ ทาง ตำซั่ว ก้อยกุ้งสด ข้าวยำ แกงส้ม ฯลฯ
ใบผักแพวประยุกต์ใช้แกงจำพวกปลา เพื่อช่วยขจัดกลิ่นของเนื้อสัตว์หรือเหม็นคาวปลาได้
คุณประโยชน์ทางโภชนาการของผักแพว ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 54 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 7.7 กรัม
ใยอาหาร 1.9 กรัมดอกผักแพว
ไขมัน 0.5 กรัม
โปรตีน 4.7 กรัม
น้ำ 83.4%
วิตามินเอ 8,112 หน่วยสากล
วิตามินบี 1 0.05 มก.
วิตามินบี 2 0.59 มก.
วิตามินบี 3 1.7 มก.
วิตามินซี 77 มก.
ธาตุแคลเซียม 79 มก.
ธาตุเหล็ก 2.9 มก.
ธาตุฟอสฟอรัส 272 มก.